ต้นกำเนิดการกินแบบมังสวิรัติเป็นมาอย่างไรกันนะ?

ว่ากันด้วยเรื่องของการกินอาหารเพื่อสุขภาพแล้วนั้น…ปัจจุบันมีการดูแลการกินอาหารได้อย่างมากมายหลากหลายทางเลือก ซึ่งประเภทของการกินอาหารที่เราจะมากล่าวถึงกันในบทความนี้นั้นก็คือ “การกินแบบมังสวิรัติ” นั้นเองครับ จะมีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไรบ้าง? เราไปค้นหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยครับ

มังสวิรัติคืออะไร?

มังสวิรัติ คือ อาหารจำพวกผักและผลไม้ ซึ่งทำให้ได้รับกากใยอาหาร อาหารมังสวิรัตินั้นจะไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบในอาหาร ซึ่งปัจจุบันสามารถหารับประทานตามร้านค้า ร้านอาหารได้อย่างมากมาย อีกทั้งด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่สามารถสร้างเนื้อสัตว์เทียมหรือที่เรียกกันว่า “โปรตีนจากพืช” เพื่อใช้ในการประกอบอาหารได้แล้ว การกินมังสวิรัติจึงไม่ยากอีกต่อไปครับ ซึ่งอาหารที่ผู้ถือมังสวิรัตินิยมรับประทานกัน ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว หรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น เต้าหู้ หรือเมล็ด เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น

ต้นกำเนิด “การกินเบบมังสวิรัติ”

มังสวิรัติ หรือในภาษาอังกฤษ Veganism นั้นมีประวัติยาวนาน ซึ่งบุคคลที่เลือกใช้ชีวิตโดยไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีอยู่เกือบทุกช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ มักเกิดจากเหตุผลทางศาสนาหรือจิตวิญญาณ เมื่อไม่นานมานี้มีการใช้คำว่า ‘มังสวิรัติ’ (ในยุค 1830) เป็นคำจำกัดความสำหรับผู้ที่ไม่เคยรับประทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์และรับประทานอาหารมังสวิรัติและอาหารดิบเป็นหลัก นอกเหนือจากการรับประทานอาหารมังสวิรัติแล้วยังขยายไปสู่สินค้าอุปโภคบริโภคและแง่มุมอื่น ๆ ของชีวิตและเทียบได้กับแนวคิดมังสวิรัติที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ The Vegan Society ถือกำเนิดขึ้นในปีพ. ศ. 1944 คำนี้ดูเหมือนจะถูกใช้โดยคนที่เกี่ยวข้องกับ Alcott House Concordium ใน Ham Common ซึ่งเป็นโรงเรียนและชุมชนที่ก่อตั้งโดย James Pierrepont Greaves ผู้ลึกลับในปีพ. ศ. 1838 โดยบัญญัติความของคำว่า “มังสวิรัติ” จึงหมายถึง อาหารที่รวมเฉพาะไข่และผลิตภัณฑ์จากนมหลังจากการก่อตั้งสมาคมมังสวิรัติในปี พ.ศ. 1873 แต่คำจำกัดความยังไม่ชัดเจนแม้ว่าสมาคมมังสวิรัติจะอนุญาตให้สมาชิกรับประทานไข่และผลิตภัณฑ์จากนมได้

ถึงแม้ว่าอาหารมังสวิรัติจะถูกกำหนดไว้ในช่วงต้นของการเริ่มต้นของ The Vegan Society ในปีพ. ศ. 1944 แต่ในปีพ. ศ. 1949 มีการกำหนดไว้อย่างสมบูรณ์ ในปีพ. ศ. 1949 “หลักการหลีกเลี่ยงการใช้ประโยชน์จากสัตว์โดยมนุษย์” ได้รับการเสนอให้เป็นมังสวิรัติโดยผู้ก่อตั้งนั้นเองครับ

กินมังสวิรัตินั้นดีอย่างไร?

●สามารถช่วยในเรื่องของการถ่ายคล่อง เพราะการกินมังสวิรัติ จะทำให้ร่างกายของคนเราได้รับอาหารที่มีไฟเบอร์หรือเส้นใยมากขึ้น จึงทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้คล่องขึ้นนั่นเอง อีกทั้งยังช่วยป้องกันอาการอึดอัดไม่สบายท้องได้อีกด้วย มีประโยชน์แบบนี้เรามาเปลี่ยนจากอาหารที่มีเนื้อสัตว์มาทานมังสวิรัติกันดีกว่าค่ะ แต่ก็อย่าลืมเน้นผลไม้ให้มากๆ ด้วยนะคะ

●สามารถช่วยในเรื่องของการขับหรือล้างพิษออกจากร่างกายได้ เพราะการกินอาหารมังสวิรัติ มีส่วนช่วยในการล้างพิษในลำไส้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งโดยปกติแล้วลำไส้ของคนเรานั้นจะมีโปรตีนส่วนเกินหลงเหลือและติดอยู่เป็นจำนวนมากและยังอาจจะมีไขมันเกาะติดอยู่อีกด้วย ซึ่งเจ้าโปรตีนและไขมันส่วนเกินนี่ล่ะที่จะก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ได้ ดังนั้น คุณจึงควรล้างพิษให้กับลำไส้ของคุณบ่อยๆ ซึ่งอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยล้างพิษได้ดีก็คือ การกินมังสวิรัตินั่นเอง

●ช่วยให้ผิวสวย เสียวเสี้ยนลดลง เนื่องด้วยจากการกินผักผลไม้จะทำให้ร่างกายได้วิตามินซีและอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างดี ซึ่งวิตามินเหล่านี้จะช่วยให้เซลล์ของร่างกายแข็งแรงมากขึ้นและยังช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากประโยชน์ที่จะได้รับจากการกินอาหารแบบมังสวิรัติอย่างมากมายแล้ว การพักผ่อนที่เพียงพอนั้นก็จำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้ว กินดีแล้วยังต้องนอนพอกันด้วยนะครับทุกๆ คน

ต้นกำเนิดการกินแบบมังสวิรัติเป็นมาอย่างไรกันนะ?

มังสวิรัติคืออะไร?

ต้นกำเนิด “การกินเบบมังสวิรัติ”

กินมังสวิรัตินั้นดีอย่างไร?